ก้าวสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างง่ายดาย

Polygon คือโปรโตคอลและเฟรมเวิร์คสำหรับการพัฒนาและเชื่อมต่อเครือข่าย Distributed Ledger ที่เข้ากันได้กับ Ethereum ด้วยเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส Polygon ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเครือข่ายในตัวเองได้อย่างรวดเร็วหรือรักษาความปลอดภัยให้กับ side-chain ที่อาจจะมีช่องโหว่จากเครือข่าย Ethereum ผ่านสัญญาอัจฉริยะ Polygon มีบทบาทในการลดต้นทุนการทำธุรกรรม และความซับซ้อนในขณะที่เพิ่มความเร็วของธุรกรรม Ethereum ให้มากขึ้น Polygon (MATIC) ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่กำเนิดขึ้นในฐานะ ‘Ethereum Scaling Solution’ ซึ่งช่วยลดความแออัดของธุรกรรมบน Ethereum โดยทำงานเป็น ‘Sidechain’ ที่มีการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมต่ำ โดยใช้ MATIC เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบน Polygon Chain

Polygon ทำงานโดยสร้างเครือข่ายโหนดกระจายศูนย์ที่เชื่อมโยงกับ Ethereum Side-chain ใช้อัลกอริทึมฉันทามติ Proof-of-Stake (POS) และใช้ Plasma ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายกับ Lightning Network (LN) POS และ Plasma ช่วยให้สามารถสื่อสารแบบสองทิศทางกับ Ethereum ได้ ซึ่งทำให้ Polygon และ Ethereum DApps สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น ในลักษณะนี้ ผู้ใช้งาน Ethereum สามารถส่งสกุลเงินไปยัง Polygon DApp และในทางกลับกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันในเครือข่าย ทำให้ Polygon มี DApp และ Defi อย่างมากมายในปัจจุบัน Polygon เสมือนเป็น layer2 ดังเป็นทางด่วนอีกหนึ่งเส้นที่มีความคล่องตัวสูง วิ่งคู่ขนานประกบกับ Ethereum เป็น Layer1 Polygon Chain สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมได้เป็นจำนวนประมาณ 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที(TPS) ในหนึ่ง Polygon side chain และใช้เวลายืนยันบล็อกเพียงสองวินาที เท่านั้น

- Polygon จะมีความเร็วสูงมากรวมถึงค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ถูกมาก เช่นกัน- Polygon เป็น Blockchain ที่ถูกใช้งานเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง Sidechain และ Layer2 ของ Ethereum ทำให้มีการใช้งานสูงจากค่าธรรมเนียมที่ถูก- Polygon มักเป็น Blockchain ที่เป็นทางเลือกในการย้าย Platform จาก Blockchain อื่นที่พบปัญหาต่าง ๆ เช่น Terra Network (Luna) ที่ประสบปัญหาความล้มเหลว และ Etheruem Network ที่ประสบปัญหาค่าธรรมเนียมแพง - Polygon มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เพราะใช้การตรวจสอบแบบ Proof-of-Stake (PoS) และ Plasma Framework

- ด้านประสิทธิภาพ Polygon มักขัดข้อง และทำธุรกรรมช้าเมื่อประสบปัญหาความหนาแน่นของธุรกรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบกับราคาของ MATIC